สี ปลาคราฟ และลวดลายที่สวยเป็นสิ่งที่ดึงดูดให้ใครหลายคนเริ่มอยากเลี้ยงปลาคราฟ และทั้งสองปัจจัยนี้เองที่มีสำคัญในการกำหนดคุณภาพ และราคา ของปลาตัวนั้นๆ แต่วิธีการดูแลนั้นไม่ใช่ง่ายๆเลย ต้องใช้ความใส่ใจ และการบวนการหลายขั้นตอนกว่าจะเป็นปลาที่สวยได้ขนาดนี้ ยิ่งสำหรับคนที่อยากเลี้ยงเพื่อส่งเข้าประกวดด้วย ต้องเสริมเติมแต่งกันเต็มที่เลยหล่ะ แล้ววันนี้ผมจะแชร์เคล็ดลับการดูแลสี ปลาคราฟให้ทราบกันครับ
เข้าใจจุดกำเนิดการเกิด สี ปลาคราฟ ก่อน
ในอดีตปลาคราฟไม่ได้สีสวยงามอย่างทุกวันนี้เลยสักนิด แถมยังมีแค่ 3 สีเท่านั้น แต่เป็นความบังเอิญที่มันได้ผสมพันธุ์กับปลาตัวอื่นๆ จนเริ่มผ่าเหล่าผ่ากอ จึงเกิดสีใหม่ๆขึ้น
ผ่านมาหลายร้อยปี จึงมีสายพันธุ์อย่างที่เราคุ้นเคย พวก โคฮากุ ซันเก้ ตันโจ ซึ่งสีของปลาเหล่านี้นั้น เกิดจากการผสมผสานของเซลล์สี เช่น สีส้มเกิดจากเซลล์สีแดงและเหลือง สีน้ำตาลเกิดจากสีดำและเหลือง และสีแดงก็คือเซลสีแดงเท่านั้น บริเวณที่ไม่มีเซลล์สีจะเป็นสีขาว ในบางกรณีอาเกิดสีที่มีสะท้อนแสงได้ เช่นสีทอง เป็นต้น
ปัจจัยที่มีผลกับ สี ของปลาคราฟ
มีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการกระจายตัวของเม็ดสีในเซลสี เช่น
อายุของปลา
ปลาแต่ละตัวจะมีจำนวนเซลล์สีที่ค่อนข้างคงที่ตั้งแต่เกิด เมื่อปลามีอายุมากขึ้น เซลล์สีของมันจะเริ่มขยายวงครอบคลุมพื้นที่กับขนาดตัว จึงมีโอกาสที่ความเข้มของสีจะจางลง นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมฟาร์มแต่ละแห่ง มักขุนปลาให้มีอายุราว 3 – 4 ปีหรือขนาด 40 cmก่อน ถึงจะปล่อยขายให้แก่ลูกค้า เพราะว่าปลาบางตัวที่สวย โตมาอาจไม่สวยก็ได้ กลับกันตัวที่เหมือนจะไม่สวย อาจเป็นระดับแชมป์ในอนาคต
การเลือกซื้อปลานำเข้าจากญี่ปุ่นที่มีแม่พันธุ์ดี สีหนาแน่นอยู่ในทุกระดับชั้นของผิว สามารถช่วยลดความเสี่ยงและมีโอกาสได้ปลาที่มีสีสวยชัดเมื่อโตเต็มวัยแล้ว
เมื่อปลาแก่ลง ก็มีแนวโน้มที่สีจะซีดจางลงเรื่อย ในบางกรณีกลายเป็นสีขาวในที่สุด
คุณภาพน้ำ
คุณภาพของน้ำสามารถส่งผลอย่างมากต่อสีของปลา เช่นน้ำที่มีสภาพมลพิษสูง จะส่งผลให้ปลามีสีซีด ค่า pH ของน้ำก็มีผลเช่นกัน สีแดงจะแสดงได้ดีในสภาพน้ำที่เป็นกรด และน้ำอ่อน ในขณะที่สีขาว และดำ จะแสดงได้ดีในสภาพน้ำที่กระด้าง และ เป็นด่าง
สิ่งแวดล้อม
ปลาคราฟเป็นปลาที่ปรับตัวตามสภาพแวดล้อมได้ดี หากถิ่นที่มันอาศัยอยู่มีความมืดทึบสูง สีของปลาจะไม่สดใสไปนั่นเลยเป็นเหตุผลว่า ทำไมการเลี้ยงปลาคราฟ หรือในงานประกวด ถึงใช้บ่อปลาเป็นสีฟ้า เพื่อให้ปลาแสดงสีออกมาชัดที่สุดนั่นเอง
การใช้ยา
การใส่เกลือหรือยาปฏิชีวนะให้กับปลา รวมทั้งการใช้มาลาไคท์กรีน มีผลทำให้สีปลาซีดลง
แสงแดด
บ่อปลาคาร์พต้องมีแสงส่องลงในบ่อในปริมาณเหมาะสม เพราะแสงแดดเป็นแหล่งวิตามิน D ของปลา โดยเฉพาะช่วยให้สีแดงของปลาสดใส แต่อย่าสร้างบ่อไว้กลางแจ้งนะครับ ไม่งั้นปลาจะเป็นมะเร็งผิวหนังหมด หาหลังคาใสๆกรองแสงได้มากันไว้ชั้นนึงดีกว่า
นอกจากเลี้ยงปลาคราฟให้เจริญเติบโตอย่างแข็งแรงแล้ว หากต้องการส่งประกวดก็ต้องมีเทคนิคเพิ่มเติม เพื่อตกแต่งปลาของเราให้สวยงามมากขึ้น บางคนอาจจะเลือกทำศัลยกรรมตกแต่งปลา ซึ่งก็ไม่ผิด ถ้าหากปลาตัวนั้นมีความแข็งแรง และสามารถเข้ารับการทำศัลยกรรมได้
เคล็ดลับ การศัลยกรรมปลา มาดูตรงนี้ !
เคล็ดลับการเร่ง สี ปลาคราฟ
การเร่งสีแดง อันดับแรกเลยคือเรื่องของอาหาร ซึ่งผมมีสูตรเร่งสี แบรนด์เกรดดีจากประเทศจีนและญี่ปุ่นจำหน่าย อย่าง Sukura Koi กับ Koiking วิธีการให้อาหารนั้นควรทยอยให้เป็นระยะ แต่ไม่ควรเร่งเพราะจะทำให้สีแตกได้ การตั้งค่า pH ของน้ำไว้ต่ำๆ ก็สามารถช่วยเร่งสีแดงให้เข้มขึ้นได้เช่นกัน
ส่วนการเร่งสีดำ จะทำตรงกันข้าม นั่นคือให้ตั้งค่า pH ของน้ำให้สูง จะเร่งสีดำได้ดี นอกจากนั้นอาจจะใช้พวกปะการัง และเกลือประมาณ 1-2 กิโลกรัมต่อน้ำ 1 ตัน มาช่วยเร่งสีได้อีกด้วย
ถ้าอยากให้ปลามีสีขาว ต้องงดอาหารสูตรเร่งสีต่างๆ แล้วให้อาหารจำพวกธัญพืชแทน จากนั้นใช้วิธีการไล่น้ำหรือล้นน้ำ เป็นวิธีที่ง่าย แต่อาจจะเปลืองน้ำพอสมควร ข้อสำคัญคือต้องระวังคลอรีนในน้ำประปา ดังนั้นต้องพักน้ำที่จะใช้ไว้ก่อน 24 ชั่วโมงในบ่อพักน้ำ
Surat Fish Farm
ที่อยู่
82 ถนนโฉลกรัฐ ตำบลบางกุ้ง
อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี
84000
Line: @suratfishfarm
กำหนดเส้นทางได้ >> ที่นี่